คลังปรับกฎกระทรวงผลิตสุรา เปิดทางรายย่อยเข้าถึงอุตสาหกรรม
ฐานเศรษฐกิจ
03 ธ.ค. 2568 | 08:40 น.
สรรพสามิตเผยคลังปรับกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2568 เปิดทางรายย่อยเข้าถึงอุตสาหกรรม ลดข้อจำกัดสุราชุมชน แต่คงมาตรฐานคุณภาพ ความปลอดภัย
นายพรชัย ฐีระเวช
อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เห็นชอบและอนุมัติกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2568 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราให้มีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน
จากเดิมที่หลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราได้กำหนดมาตรฐานของโรงอุตสาหกรรมสุราแต่ละชนิดไว้ค่อนข้างสูงเพื่อควบคุมคุณภาพของสุรา
คุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคและดูแลสิ่งแวดล้อม
โดยได้มีการปรับปรุงมาตรฐานการผลิตสุราใหม่ให้เหมาะสมกับกิจการขนาดเล็ก
ขนาดกลางและขนาดใหญ่ แต่ยังคงหลักการควบคุมคุณภาพของสุรา
คุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค และดูแลสิ่งแวดล้อมเช่นเดิม
เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายย่อย
เข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมสุราได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้
กฎกระทรวงดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 2
ธันวาคม 2568
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวต่อว่า
การปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราครั้งนี้ มีการเพิ่ม
ประเภทใบอนุญาตผลิตเบียร์และสุรากลั่นให้เหมาะสมกับผู้ประกอบการรายย่อย
เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับผู้ผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์สด
รวมถึงการปรับปรุงข้อกำหนดด้านสถานที่ตั้งโรงอุตสาหกรรมสุราเพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพของผู้ประกอบการรายย่อย
โดยยังคงให้ผู้ประกอบการทุกประเภทต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม
สุขอนามัย และความปลอดภัยในการผลิต เช่น การมีระบบบำบัดน้ำเสีย
และกระบวนการการผลิตสุรา
เพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตสุราเป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
และไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้
หลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราใหม่ ยังเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
และการใช้ผลผลิตทางการเกษตรในประเทศ
โดยการสนับสนุนให้ใช้วัตถุดิบจากผลผลิตภาคการเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด
หรือผลไม้ต่าง ๆ เป็นวัตถุดิบในการผลิตสุรา ซึ่งรวมถึงสามารถใช้ผลผลิตทางการเกษตรแปรรูปเป็นวัตถุดิบในการผลิตสุรา
เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับสินค้าเกษตร
และเป็นการสร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ
“นับเป็นการเชื่อมโยงระหว่างภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมการผลิตสุราอย่างเป็นระบบ
พร้อมกันนี้
ได้วางกรอบเพื่อเปิดโอกาสให้เอทานอลที่ผลิตเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงซึ่งใช้ผลผลิตทางการเกษตรจากอ้อยและมันสำปะหลัง
สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจชีวภาพ
เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว
ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนสินค้าเกษตรในประเทศอีกทางหนึ่งด้วย”
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวทิ้งท้ายว่า
การกำหนดหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราใหม่ในครั้งนี้
จะช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาเป็นผู้ประกอบการผลิตสุราที่มีมาตรฐานในระดับที่สูงขึ้น
เพื่อเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมสุราของไทยให้มีมาตรฐานในระดับสากล กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิต
จะยังคงดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่กับการคุ้มครองผู้บริโภค
รักษามาตรฐานเพื่อสังคม
และส่งเสริมการเติบโตของผู้ประกอบการรายย่อยอย่างยั่งยืนต่อไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++