Home

November 17, 202517 3

ผ่าปัญหาตลาดแรงงาน น่าห่วง! ซมวิกฤตโครงสร้างประชากรไทยเปลี่ยน

ฐานเศรษฐกิจ

16 พ.ย. 2568 | 16:45 น.

นายธนิต โสรัตน์ ประธานกรรมการบริษัทในเครือวี-เซิร์ฟ กรุ๊ป และประธานสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีการกล่าวถึงสถานประกอบการต่าง ๆ เลิกจ้างและลดการจ้างแรงงานจนทำให้อัตราการว่างงานของประเทศพุ่งสูงกว่าปกติ แต่จากการพิจารณาข้อมูลของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องพบว่า อัตราการว่างงานทั้งแรงงานของประเทศและแรงงานในระบบประกันสังคมไม่ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ย และเมื่อเปรียบเทียบ 4 ปี อัตราการว่างงานก็ไม่ได้ส่งสัญญาณผิดปกติ

นายธนิต กล่าวว่า ประเด็นที่น่าจะมีการศึกษาคือประเทศไทยมีปรากฎการณ์ที่ต่างไปจากประเทศอื่นๆ เนื่องจากอัตราการว่างงาน โดยเฉพาะของสำนักงานสถิติแห่งชาติไม่แปรผันไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจหรือ GDP ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเศรษฐกิจของไทยขยายตัวเฉลี่ยเพียงร้อยละ 2.59 (หักปี 2563 GDP ติดลบ 6.2%) 

โดยอัตราการว่างงานของไทยต่ำกว่าศักยภาพและต่ำกว่าประเทศในเอเชียแปซิฟิก แต่ไม่มีผลต่อการจ้างงาน แม้แต่ในปีนี้มีปัจจัยตัวแปรทั้งภายนอกและภายในรวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองกลับไม่มีผลกระทบต่อตลาดแรงงานและไม่มีปัญหาการว่างงานอย่างเป็นนัย

สำหรับฉากทัศน์ตลาดแรงงานในทุกภาคส่วนเศรษฐกิจ พบว่า มีความต้องการหรือดีมานด์จากนายจ้างในเชิงปริมาณยังไม่พอกับความต้องการ โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะเฉพาะด้านในทุกสาขา ข้อมูลเชิงประจักษ์ตลาดเป็นของแรงงานซึ่งมีการเลือกงานที่มีรายได้สูงและพฤติกรรมเปลี่ยนงานบ่อยรวมถึงมีอัตราสูงชอบงานสบาย สวัสดิการดี โดยเฉพาะกลุ่มเจน

โดยในช่วง 1 – 2 ปีแรก ส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ทำงานประจำ ชอบงานอิสระ หรืองานฟรีแลนซ์ หรืออาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ทั้งที่ยังไม่มีขีดความสามารถขาดทักษะและประสบการณ์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีการศึกษาระดับปริญญา ซึ่งมีอัตราการว่างงานเกือบครึ่งของจำนวนคนว่างงาน

นายธนิต กล่าวว่า ดังที่กล่าวมาเป็นปัญหาทางโครงสร้าง มีผลต่อปัจเจกบุคคล-ครัวเรือน-ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันปัญหาในอีกด้านของไทยคือ การเร่งตัวของแรงงานสูงอายุ ซึ่งค่าเฉลี่ยหรือมัธยฐานอายุแรงงานไทยประมาณ 42 - 45 ปี เทียบกับประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย กำลังแรงงานอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว 

ทั้งนี้มองว่า วิกฤตประชากรของไทยกำลังก่อตัว เป็นผลจากอัตราการเกิดต่ำกว่าอัตราการเสียชีวิต โดยอัตราคนเกิดน้อยกว่าคนตายเป็นปีที่ 5 จำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลงในช่วง 9 เดือนของปี 2568 มีเด็กเกิดใหม่ 309,644 คน ลดลงถึงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 

โดยผลกระทบทางเศรษฐกิจการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต ทำให้เผชิญกับความเสี่ยงการขาดแคลนแรงงาน การบริโภคที่ลดลง และภาระทางการคลังที่เพิ่มขึ้น

ดังนั้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือการนำเข้าแรงงานต่างชาติเข้ามาทดแทนการขาดแรงงาน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสูงถึง 4.005 ล้านคน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ช่วงไตรมาส 3/2568 มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 6.464 แสนคนหรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 19.25 

ขณะเดียวกันการที่รัฐบาลคิกออฟแนวคิดขยายเกษียณราชการจาก 60 ปีไปเป็น 65 ปี จำเป็นต้องครอบคลุมทั้งแรงงานภาครัฐและเอกชน การขยายอายุเกษียณแรงงานเกี่ยวข้องกับมาตรการรองรับการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญและจะเพิ่มดีกรี กลายเป็นปัญหาของประเทศในอนาคตอันใกล้ มีผลโดยตรงต่อเสถียรภาพตลาดแรงงาน การส่งออก การลงทุน การขยายตัวทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของครัวเรือนเป็นปัญหาทางโครงสร้างแก้ยากด้วย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 



version 1.0.5-42794e0f7