อสังหาฯพาณิชย์แข่งดุ ปี 68-69 แนวโน้มออฟฟิศโอเวอร์ซัพพลายต่อเนื่อง
ฐานเศรษฐกิจ
27 ก.ย. 2568 | 19:50 น.
SCB EIC ประเมินตลาดอสังหาฯเพื่อการพาณิชย์ปี 2568–2569 ยังถูกกดดัน ออฟฟิศเช่าล้นตลาด ดีมานด์ฟื้นตัวช้า ขณะที่ค้าปลีกขยายตัวเพียงเล็กน้อย
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ
ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB Economic Intelligence
Center (EIC) เปิดเผยรายงานแนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ไทยช่วงครึ่งหลังปี
2025 จนถึงปี 2026 โดยชี้ว่าตลาดยังถูกกดดันอย่างหนักจาก ภาวะ Oversupply โดยเฉพาะในกลุ่มพื้นที่สำนักงานให้เช่า
ขณะที่ตลาดค้าปลีกแม้มีแรงพอประคอง แต่ก็ขยายตัวได้เพียงเล็กน้อย
SCB EIC ประเมินว่าอุปสงค์พื้นที่สำนักงานให้เช่าในปี 2025
จะเติบโตเพียง +1% YoY ใกล้เคียงปีก่อน
และมีแนวโน้มทรงตัวในปี 2026 ปัจจัยกดดันหลักมาจากเศรษฐกิจไทยที่ยังขยายตัวต่ำ
ความเชื่อมั่นนักลงทุนไม่ฟื้นเต็มที่ การเปิดบริษัทใหม่และการจ้างงานที่ลดลง
รวมถึงความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้า
แม้จะมีแรงหนุนจากการลงทุนโดยตรงของต่างชาติ สะท้อนผ่านตัวเลข BOI
ที่อยู่ในระดับสูงช่วงครึ่งแรกปี 2025 แต่การเติบโตของดีมานด์ยังถูกจำกัด
นอกจากนี้ การทำงานแบบ Hybrid workplace ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่โควิดยังลดความจำเป็นในการใช้พื้นที่สำนักงานจริง
ขณะเดียวกัน
อุปทานใหม่ยังคงเข้ามาต่อเนื่องจากโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดปี 2025–2026
พื้นที่สำนักงานใหม่จะเพิ่มราว +2.5% ถึง
+4.5% YoY สูงกว่าอุปสงค์ ทำให้ อัตราการเช่า (Occupancy rate) มีแนวโน้มลดลงจาก
81% ในปี 2024 โดยเฉพาะในตลาดเกรด A
และ A+ ขณะที่ค่าเช่ายังขยับขึ้นได้จำกัดเพราะความต้องการยังอ่อนแอ
สำหรับตลาดพื้นที่ค้าปลีกให้เช่า SCB EIC ระบุว่ามีแนวโน้มเติบโตเล็กน้อยราว +1% ถึง +2%
YoY ในปี 2025–2026 แม้กำลังซื้อในประเทศยังเปราะบางจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจโตต่ำ
ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจีนที่หดตัว ทำให้ Traffic ของศูนย์การค้าและรีเทลโดยรวมชะลอลง
อย่างไรก็ตาม โครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ยังสามารถดึง Traffic ได้สูง จากทั้งการกระจายทำเล การ Renovate พื้นที่ และการสร้างความหลากหลายของผู้เช่า ขณะที่อุปทานใหม่ยังคงขยาย +3% ถึง +4% YoY ทำให้ Occupancy rate อาจลดลงจาก 95% ในปี 2024 แต่ยังคงยืนเหนือ 90% ได้ ส่วนค่าเช่ามีแนวโน้มขยับขึ้นได้เพียง +1% ถึง +2% YoY
SCB EIC ชี้ว่าการแข่งขันในตลาด CRE จะทวีความรุนแรง
โดยเฉพาะผู้เล่นรายใหญ่ที่ได้เปรียบด้านเงินทุนและแบรนด์
ในขณะที่ผู้ประกอบการรายกลางและเล็กต้องหาทางปรับกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด
แนวทางสำคัญ ได้แก่
- พัฒนาโครงการใหม่ด้วยความระมัดระวัง
- สร้างความแตกต่างและยกระดับคุณภาพโครงการ เช่น
เพิ่มความหลากหลายของผู้เช่าและบริการเสริม
- บริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพทั้งในขั้นพัฒนาและดำเนินงาน
- ให้ความสำคัญกับ ESG โดยเฉพาะการพัฒนาโครงการที่ได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
จากการวิเคราะห์ของ
SCB EIC แนวโน้มอสังหาฯพาณิชย์ในปี 2568-2569 ยังเต็มไปด้วยแรงกดดัน ออฟฟิศเช่ายังคงเผชิญ Oversupply ดีมานด์ฟื้นตัวช้า ขณะที่ค้าปลีกแม้พอเติบโต
แต่ยังไม่สามารถสร้างแรงขับเคลื่อนได้เต็มที่
ผู้ประกอบการทุกระดับจำเป็นต้องปรับตัวเชิงกลยุทธ์ และหันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพ
ความแตกต่าง และความยั่งยืน
เพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอดในสนามแข่งขันที่ดุเดือดยิ่งขึ้น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++